โครเอเชียเป็นเจ้าบ้านในศึก เนชั่นลีก ในวันศุกร์ แต่พวกเขาสามารถชนะลูกทีมของ เกเร็ธ เซาท์เกธ ในศึกฟุตบอลโลกรอบรองชนะเลิศได้อย่างไร? เรามีมุมมองกับการปะทะกันระหว่างทั้งสองทีมที่รัสเซีย และสิ่งที่บทเรียนของ เซาท์เกธ จากการพ่ายแพ้ครั้งก่อน มาปรับแผนรับมือในสัปดาห์นี้
สามเดือนที่ผ่านมานับตั้งแต่อังกฤษแพ้ในศึกฟุตบอลโลกรอบรองชนะเลิศด้วยความพ่ายแพ้ในช่วงต่อเวลา 2-1 ต่อโครเอเชีย ตอนนี้เป็นโอกาสของเขาที่จะเอาคืน โครเอเชีย
การจัดตำแหน่ง
เซาท์เกธ ชื่นชอบการเล่นในแผน 3-5-2 ซึ่งเป็นแผนที่ใช้ในมอสโก ขณะที่ผู้จัดการโครเอเชีย แซลตโก เดลิก เปลี่ยนจากการใช้แผน 4-2-3-1 เป็น 4-1-4-1
มีอัตรา ในการครอบครองบอลเท่าๆ กัน ในช่วง 45 นาทีแรก แต่โครเอเชียครองบอลได้ทั้งครึ่งหลัง ยกเว้นช่วงเวลาสามนาทีหลัง เมื่ออังกฤษพยายามจะตอบโต้
ในช่วงต่อเวลาพิเศษอังกฤษล้มเหลวที่จะใช้ประโยชน์จากลูกที่โดดเด่นของพวกเขา มาริโอ มานด์ซูคิก คือหัวใจสำคัญในการเป็นผู้ชนะในช่วงต่อเวลาพิเศษสำหรับโครเอเชีย
แน่นอนความสามารถของโครเอเชียในการควบคุมเกมเกิดขึ้นจากการใช้กองกลางที่มีจำนวนมากกว่า จอร์แดนเฮนเดอร์สัน ซึ่งเป็นคู่หูของสองคนอย่าง เดลเล่ อัลลี และ เจสซี่ ลินการ์ด
โครเอเชียรักษาระบบได้ดี โดยมีผู้เล่น 6 คนเฉลี่ยตามแนวกึ่งกลาง ผสมผสานระหว่างผู้เล่น เป็นภาพรวมที่เด่นชัดในการครองตำเกมแดนกลาง
ที่น่าสนใจการโจมตีเกือบครึ่งหนึ่งของโครเอเชียเกิดขึ้นจากทางปีกซ้าย และส่วนหนึ่งเกิดจากแดนกลาง เดลิค มองพื้นที่ว่างทิ่เกิดขึ้น หลังวิงแบค อังกฤษโจมตีขึ้นมาสูง จึงเกิดพื้นที่ว่างให้โครแอตได้โต้กลับ
สรุปแล้ว อังกฤษ แพ้เกมแดนกลางของโครแอต วันศุกร์นี้ เซาท์เกธ จะปรับแผนรับมืออย่างไรไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ต้องรอติดตามกันในศึก เนชั่นลีก วันศุกร์นี้
แหล่งข้อมูลจาก : Skysports